เฟิร์นรังนก หรือ เฟิร์นโอซาก้า (Asplenium nidus) เป็นไม้พันธุ์ในชนิด Asplenium พบในป่าเขตร้อนส่วนมากจะพบจากการเพราะปลูก ซึ่งไม้พันธุ์นี้จะมีอีกชนิด คือ Asplenium bulbiferum เรียกว่า ม้ามหรือเฟิร์นแม่ ซึ่งจะมีการเติบโตที่ช้ากว่าและยากกว่าพันธุ์ชนิด Asplenium เฟิร์นแอสเพิลเนียมเป็นเอพิไฟติกตามธรรมชาติ พวกมันเติบโตบนพื้นผิวของพืชชนิดอื่น ๆ ในป่าดงดิบสามารถพบได้ตามที่สูง ๆ บนต้นไม้ต่าง ๆ ตามกิ่งของต้นไม้ และจะเติมโตในรูปแบบดอกกุหลาบ ดังนั้นพืชที่สวยและดูดีจะมีใบที่ยาวถึง 3 ฟุต แต่หาได้ยากตามพื้นที่เพราะว่าพืชจำพวกนี้จะเลี้ยงดูตัวเองให้สมบูรณ์
วิธีปลูก เฟิร์นรังนก
เฟิร์นชนิดนี้มีความสวยงามและมีใบที่กระจายออกเป็นแฉก ๆ ที่สวยงาม อีกทั้งใบยังมีขนาดใหญ่ที่น่าทึ่งอย่างมาก จึงได้มีการจัดจำพวกให้เป็นกลุ่มกล้วยไม้โบรมีเลียดและพืชป่าฝนอื่น ๆ เฟิร์นเหล่านี้คนทั่ว ๆ ไปรู้กันว่าอยู่กลางแจ้งจะเจริญเติบโตบนต้นไม้ได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกมันสามารถหาจุดระหว่างกิ่งก้านเพื่อแอบอิงพวกมันได้รับความชื้นจากต้นไม้และสภาพแวดล้อมภายนอกจากแสงเงาของต้นไม้ได้ดีกว่า
หากได้ปลูกในกระถาง ในส่วนสำคัญชองพืชชนิดนี้นั้นจะดีเช่นกัน คือ การให้ความชุ่มชื้นและความอบอุ่นแกตนเองเพียงพอ เพราะมันสามารถทนต่อระดับแสงแดดที่สูงมาก และส่วนที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการปลูกเฟิร์นชนิดนี้ก็อคือ การวางต้นเฟิร์นไว้ตรงที่เป็นพื้นที่น้ำ เช่น วางไว้ตรงใกล้ ๆ ฝักบัว หรือวางไว้ข้าง ๆ อ่างอาบน้ำนั่นเอง
และถ้าหากคุณดูแลพืชของคุณได้อย่างดี มันจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคง อีกทั้งจะมีใบใหม่ที่งอกออกมาจากบริเวณส่วนกลางของพืชเรื่อย ๆ ใบใหม่ที่ออกมาห้ามไปตัดแต่งทรง เพราะมันจะทำให้ใบนั่นเสียรูปทรงได้
แสง
พืชเหล่านี้ต้องการแสง แต่ไม่มากเกินไป และอย่าให้โดนแดดโดยตรง นอกจากแสงอาทิตย์ในตอนเช้า การวางเฟิร์นไว้ข้างหน้าต่างที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือจะเหมาะอย่างยิ่ง
ดิน
ในการปลูกเฟิร์นชนิดนี้ ควรปลูกในปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่หลวม ๆหรือผสมปุ๋ยพรุ ส่วนผสมของพีทสองส่วนและเพอร์ไลต์ส่วนหนึ่งจะทำงานได้ดี มิฉะนั้นให้ลองผสมพีทกับวัสดุอินทรีย์อื่น ๆ ได้
น้ำ
นี่คือพืชป่าที่แท้จริง ควรทำให้ปุ๋ยหมักชื้น แต่ห้ามอย่าให้พืชเปียก นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการรดน้ำเข้าไปใน “รัง” หรือตรงกลางของพืช เพราะจะกระตุ้นให้เกิดเชื้อราและเกิดการเน่า ควรรดน้ำดินแทนพืช
อุณหภูมิและความชื้น
พืชจะเจริญเติบโตในพื้นที่อบอุ่น รักษาอุณหภูมิระหว่าง 68 ถึง 80 องศาฟาเรนไฮต์ มันไท้ต้องการลมหนาวและอุณหภูมิที่ลดลงอย่างกะทันหัน พืชชอบความชื้นและจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือสวนขวด อีกทั้งคุณยังสามารถใช้เครื่องเพิ่มความชื้นใกล้ต้นเฟิร์นได้อีกด้วย
ปุ๋ย
ในช่วงฤดูปลูก (เมษายนถึงกันยายน) ให้ปุ๋ยเดือนละครั้ง อย่าใส่เม็ดปุ๋ยตรงกลาง หรือ “รัง” ของมัน งดใส่ปุ๋ยในช่วงฤดูหนาว เมื่อพืชส่วนใหญ่อยู่ในช่วงพักตัวปุ๋ยที่มากเกินไปจะทำให้ใบเสียรูป และใบด่างสีน้ำตาลหรือเหลืองได้
การปลูกและการดูแล
พืชชนิดนี้มักจะถูกมองข้าม เพราะเป็นพืช epiphytic ตามธรรมชาติพวกมันมักคุ้นเคยกับการเติมโตบนต้นไม้ เมื่อพืชมีการเจริญเติบโตเต็มที่มะนจะมีการผลัดใบทิ้ง และปัญหาก็คือมันจำล้มคว้ำจากกระถางที่เล็กกว่าได้ ซึ่งในทุก ๆ ปีควรจะเปลี่ยนกระถางใหม่และใส่ปุ๋ยหมักใหม่
การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์จะไม่ยาก อีกทั้งไม่สามารถแยกเช่นเดียวกับเฟิร์นชนิดอื่น ๆ ได้ เพราะพวกมันมักได้รับการเลี้ยงดูจากสปอร์หรือการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ทั้งนี้การขยายพันธุ์มักจะเกินเอื้อมของผู้ปลูกในบ้านซะส่วนใหญ่
พันธุ์/ชนิด
เฟิร์นรังนกบางชนิดได้รับการพัฒนาขึ้นโดยปกติจะมีขอบใบหงิกหรือหยัก เฟิร์นแม่ (เรียกอีกอย่างว่าม้าม) บางครั้งก็หาซื้อได้ตามสถานดูแลต้นไม้ทางออนไลน์
o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o
c r e d i t : ufabet